ในการส่งสกุลเงินคริปโต คุณจำเป็นต้องทราบที่อยู่ของผู้รับ ที่อยู่คริปโตคือสตริงตัวอักษรและตัวเลขที่คล้ายกับที่อยู่ Bitcoin เช่นนี้:
3J98t1WpEZ73CNmQviecrnyiWrnqRhWNLy
หรือที่อยู่ Ethereum เช่นนี้:
0xb794f5ea0ba39494ce839613fffba74279579268
วิธีหนึ่งในการส่งคริปโตคือการคัดลอกที่อยู่ของผู้รับไปยังคลิปบอร์ด จากนั้นวางในช่องส่งของแอปกระเป๋าสตางค์คริปโตที่คุณใช้
ที่อยู่คริปโตสามารถแสดงในรูปแบบ QR code ได้เช่นกัน หากคุณส่งคริปโตจากกระเป๋ามือถืออย่าง Bitcoin.com Wallet คุณสามารถใช้กล้องโทรศัพท์ของคุณสแกน QR code ของที่อยู่ที่คุณต้องการส่งได้ ซึ่งจะทำให้ที่อยู่นั้นถูกกรอกโดยอัตโนมัติ
สำหรับจำนวนเงินที่จะส่ง ส่วนใหญ่กระเป๋าสตางค์จะให้คุณสลับการแสดงจำนวนเงินส่งในหน่วยสกุลเงินคริปโต เช่น bitcoin (BTC) หรือ Ethereum (ETH) หรือแสดงเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของคุณ
สำคัญ: ธุรกรรมสกุลเงินคริปโตไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้นหากคุณส่งไปยังที่อยู่ผิด คุณอาจไม่เห็นคริปโตนั้นอีก
ค่าธรรมเนียมเครือข่ายเดิมใช้เป็นวิ ธีการป้องกันไม่ให้มีการส่งธุรกรรมจำนวนมากเกินไปในเครือข่าย ขณะที่การใช้งานเดิมนี้ยังคงอยู่ มันส่วนใหญ่เป็นวิธีการจูงใจให้แก่ผู้ขุดหรือผู้ตรวจสอบเพื่อเพิ่มธุรกรรมในบล็อกถัดไป
หลายกระเป๋าสตางค์คริปโต (รวมถึง Bitcoin.com Wallet) อนุญาตให้คุณปรับแต่งค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่คุณจ่ายเมื่อคุณส่งคริปโต ซึ่งขึ้นอยู่กับสกุลเงินคริปโต
ค่าธรรมเนียมคริปโตถูกกำหนดแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละบล็อกเชน โดยทั่วไปจะมีค่าธรรมเนียมพื้นฐานที่ถูกกำหนดโดยปริมาณข้อมูลในธุรกรรม ธุรกรรมที่ต้องการข้อมูลมากขึ้นจะมีค่าธรรมเนียมพื้นฐานสูงขึ้น นอกจากนี้ คนสามารถเพิ่มเข้าไปเองเพื่อช่วยให้ธุรกรรมของพวกเขาถูกเพิ่มในบล็อกถัดไป
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น การทำธุรกรรมบล็อกเชนบางส่วนถูกกำหนดโดยปริมาณข้อมูลในธุรกรรม ข้อมูลที่จำเป็นมากขึ้นในการทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ทำให้ส่วนนี้ของค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
นี่ขึ้นอยู่กับกระเป๋าสตางค์อีกครั้ง อันที่จริงหลายการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตแบบรวมศูนย์ไม่ให้คุณควบคุมค่าธรรมเนียมเครือข่ายใดๆ เลย แต่พวกเขามีค่าธรรมเนียมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ซึ่งมักจะสูงกว่าค่า ธรรมเนียมที่การแลกเปลี่ยนจะจ่ายจริง)
ค้นหาแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับการซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล
ค้นหาแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับการซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล